โครงงานวิทยาศาสตร์
เรื่อง
การบูรหอม
จัดทำโดย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
6/2
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาวิทยาศาสตร์
ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียนทุ่งแสงทองพิทยาคม
อำเภอนางรอง
จังหวัดบุรีรัมย์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 32
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเรื่อง การบูรหอม
จะสำเร็จลุล่วงไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ที่ช่วยให้คำปรึกษา
ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงาน ตลอดจนเอื้อเฟื้อสถานที่
และออกแบบผลงาน ขอขอบคุณปกครอง คุณครูโรงเรียนทุ่งแสงทองพิทยาคม
และชุมชนที่ให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ และให้กำลังใจตลอดมา
คณะผู้จัดทำโครงงานขอขอบคุณท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องไว้
ณ โอกาสนี้
คณะผู้จัดทำ
บทคัดย่อ
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง การบูรหอม เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น
สามารถผลิตใช้ได้ตามความต้องการ
เป็นการนำพืชที่มีกลิ่นหอมมาใช้ในการผลิตการบูรหอมทำให้รู้จักพืชที่ให้กลิ่นหอมหลาย
ชนิด จากการสืบค้นเรื่องการบูร ให้กลิ่นหอมได้ทราบสรรพคุณ คุณสมบัติ
และประโยชน์ของการบูรเหล่านี้เพิ่มขึ้นด้วย โดยใช้วิธีค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือและอินเตอร์เน็ต
น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจทั่วไป
การผลิตการบูรหอมใช้อุปกรณ์ที่มีใช้อยู่โดยทั่วไปในบ้านและท้องถิ่น
บทที่ 1
ที่มาและความสำคัญ
ในปัจจุบันของสังคมไทยทุกวันนี้มีการสร้างอาคารบ้านเรือนในรูปแบบทรงลูกเต๋าและมีการปิดทึบทำให้เกิดการอับชื้นของอากาศในพื้นที่นั้นๆหรือว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า
ห้องน้ำ ในรถยนต์จะมีการส่งกลิ่นอับออกมา ทางคณะผู้จัดทำจึงได้คิดหาวิธีช่วยที่จะช่วยในการลดกลิ่นอับลง
ภายในกลุ่มจึงเสนอแนะให้ใช้การบูรซึ่งช่วยในการลดกลิ่นอับ
และได้สังเกตเห็นว่ามีการวางหน่ายในท้องตลาด
คณะผู้จัดทำจึงได้คิดที่จะจัดทำขึ้นมาใช้เพื่อลดอัตราการใช้จ่ายและยังสามารถทำเป็นของฝากได้อีกด้วย
โดยศึกษากระบวนการจากธรรมชาติ
ปัจจุบัน
มนุษย์ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีต่างๆมากมายจากข่าวโทรทัศน์และวิทยุ
ทั้งจากการบริโภคและอุปโภค ข้าพเจ้าและเพื่อน ๆ
จึงสนใจที่จะศึกษาเรื่องสารที่ใช้ในชีวิตประจำวันว่า
สามารถนำพืชมาใช้ทดแทนกันได้หรือไม่ในชีวิตประจำวัน
โดยการผลิตการบูรหอมที่มีกลิ่นหอมแบบสมุนไพรที่มีอยู่ภายในท้องถิ่น
และไม่มีอันตราย
วัตถุประสงค์
1.
ศึกษาการวิธีการทำการบูร
2.
ศึกษาการนำการบูรไปใช้ประโยชน์ให้มีผลประโยชน์มากที่สุด
3.
เพื่อผลิตการบูรมาใช้เองและจัดวางจำหน่าย
สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า
จากการทดลองผลิตการบูรหอมโดยให้มีกลิ่นหอมมาผ่านกรรมวิธีการผลิตตามขั้นตอน
จะได้การบูรที่มีกลิ่นหอม จริง
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1.
ศึกษาการทำการบูรหอม
2.
ศึกษาการนำไปใช้ประโยชน์ของการบูร
3.
ศึกษาการใช้การบูรอย่างมีคุณภาพ
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การบูร
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cinnamomum camphora (L.) J.presl
วงศ์: LAURACEAE
ชื่อพ้อง: Cinnamomum officinarum Nees.
ชื่อสามัญ: Camphor Tree;Formosan Camphor;Gum
Camphor;Laurel Camphor
ชื่ออื่น: พรมเส็ง (เงี้ยว ภาคเหนือ)
อบเชยญวน (ภาคกลาง)
ลักษณะทางพฤกศาสตร์
ลำต้น: เป็นไม้ยืนต้น
ขนาดกลางถึงใหญ่ สูง15-30 เมตร เปลือกต้นผิวมันเกลี้ยง สีน้ำตาลอมเขียว
ใบ: ดกทึบ ใบเดี่ยว สีเขียว ยาว 7-10 เซนติเมตร รูปรีปลายแหลม
ดอก: ออกเป็นช่อสีขาวอมเขียวหรือเหลือง
ขนาดเล็ก ออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ ในเดือน มิ.ย.-ก.ค.
ผล: ขนาดเล็กมีเมลด 1 เมล็ด ผิวสีชมพูหรือน้ำตาลม่วง เปลือกและราก นำมากลั่นด้วยไอน้ำ
ได้การบูรดิบ
ส่วนที่ใช้และสรรพคุณ
ผงการบูร เป็นเกล็ดกลมเล็กๆ สีขาวแห้ง
อาจจับกันเป็นก้อนร่วนๆ แตกได้ง่าย ทิ้งไว้ในอากาศ จะระเหิดไปหมด รสร้อนปร่าเมา
บำรุงธาตุ ทำให้อาหารงวด ขับเสมหะและลม แก้ธาตุพิการ แน่นจุกเสียด ปวดท้อง
ขับลมในลำไส้ แก้ไอ แก้เลือดลม ชูกำลัง แก้คัน แก้โรคตา ขับลมให้ผาย กระจายลม
บำรุงความกำหนัด ขับเหงื่อ แก้ปวดตามเส้น เกลื่อนฝี แก้เคล็ดขัดยอก บวม แก้กระตุก
แก้ปวดข้อ แก้ปวดเส้นประสาท แก้รอยผิวหนังแตก แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
เป็นยาชาเฉพาะที่ แก้โรคผิวหนังเรื้อรัง ขับน้ำเหลืองบำรุงหัวใจ
บทที่ 3
วิธีดำเนินการทดลอง
วัสดุและอุปกรณ์
การบูรหอม 200
กรัม
กระดาษสาชนิดอ่อน
(มีลายและไม่มีลาย)
ไม้บรรทัด 1 อัน
ดินสอ 1 เล่ม
ปืนยิงกาว
1
อัน
กาวแท่ง 3 แท่ง
กรรไกร
1 เล่ม
ตาชั่งขนาด ½ กิโลกรัม 1 อัน
ถุงแก้ว 30 ถุง
ช้อนสแตนเลส 1 อัน
กะละมังสแตนเลส 1
อัน
อุปกรณ์ตกแต่ง
เช่น
ดิ้นเงิน-ดิ้นทอง ลูกปัดเงิน-ลูกปัดทอง และอุปกรณ์สำเร็จ ลวดกำม
แหล่งจำหน่ายวัสดุ/อุปกรณ์
ร้านเคมีภัณฑ์และร้านขายอุปกรณ์งานประดิษฐ์หลังวัดกลางนางรอง
วิธีการดำเนินการ
1. นำการบูรหอม
มาใส่ในกะละมังสะอาดที่เตรียมไว้
2. นำกระดาษแข็งมาวาดแบบต่าง ๆ
ตามจินตนาการ และใช้กรรไกรตัดตามรูปและขนาดที่ต้องการ
3. วัดกระดาษสาให้มีหน้ากว้าง 6 นิ้ว โดยวัดตามความยาวหน้ากระดาษพับทบไป - มา จากนั้นวัดให้มีขนาดยาว 6
- 7 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับแบบ)
แล้วนำตัวต้นแบบที่ทำด้วยกระดาษแข็งมาวางทาบลงบนกระดาษสา
4. ใช้กรรไกรตัดตามแบบ โดยให้เผื่อรอบต้นแบบไว้ประมาณ ½ นิ้ว
เพื่อความสวยงามและการปรับแต่งทำแบบต่าง ๆ ได้ง่าย
5. นำกาวแท่งใส่ลงไปในช่องสำหรับใส่กาวที่ตัวปืน เสียบปลั๊กเพื่อให้เกิดความร้อน
(กาวแท่งจะละลาย) นำกระดาษสาที่ตัดแล้ว 2
แผ่นมาวางประกบกันโดยให้รอยตัดเสมอกัน
ค่อย ๆ ทากาวตามแบบทีละด้าน
และเว้นส่วนบนไว้ประมาณ 1.5 นิ้ว สำหรับใส่การบูร
6. นำการบูรกรอกใส่ถุง
โดยชั่งให้ได้ถุงละ 28 กรัม จากนั้นใช้ลวดกำมหยี่รัดบริเวณช่องกรอกการบูร
7. ตกแต่งถุงการบูรให้สวยงามตามแบบที่คิดไว้
โดยให้มีรูปแบบหลากหลายตามความต้องการ
บทที่ 4
ผลการทดลอง
จากการทดลองผลิตการบูรหอมปรากฏว่าได้ผลผลิตคือ
การบูรที่มีกลิ่นหอม และมีคุณภาพตามที่ต้องการ การบูรมีลักษณะเป็นผงสีขาว มีกลิ่นหอม โดยการใส่กลิ่นสังเคราะห์ เช่น
กลิ่นกล้วยไม้ และอัญชัน สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทที่ 5
สรุปและอภิปรายผล
จากการเริ่มทำโครงงานนี้
ข้าพเจ้าและเพื่อน ๆ ได้รับความรู้ ได้ทำการทดลองสนุกสนานมาก และที่สำคัญคือ ได้รับความรู้เกี่ยวกับการบูรให้กลิ่นหอมเพิ่มเติมมาหลายชนิดห้องเราและทั้ง
โรงเรียนหอมไปด้วยกลิ่นหอมแบบโบราณของการบูรนานเป็นสัปดาห์ทีเดียว เพื่อน
ๆต้องการให้ผลิตอีกมากมาย และเผยแพร่ความรู้ให้กับเขาด้วย
ประโยชน์ที่ได้จากโครงงาน
1. ข้าพเจ้าและเพื่อนได้ฝึกฝนการทำงานเป็นขั้นตอน
2. ได้ทราบถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนสมัยก่อนและนำมาศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ให้ลูกหลานคงสืบสานต่อไป
3. ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา
4. ได้เรียนรู้การทำโครงงาน
ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำโครงงานระดับสูง
5. เกิดความภาคภูมิใจผลงานที่จัดทำ
6. ได้เผยแพร่ผลงานซึ่งเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ และผู้ที่สนใจ
ระยะเวลาในการทำงาน
3 สัปดาห์ ตั้งแต่ วันที่ 20
มกราคม – 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ข้อเสนอแนะ
1. สามารถเพิ่มกลิ่นของการบูรได้ตามต้องการ
2. สามารถทำบรรจุภัณฑ์ของการบูรได้ต้องการ
3.รูปแบบการทำการบูรหอมควรมีหลายๆแบบ เช่น
รูปแครอท หัวใจ ลิง จิงโจ้ ร่ม ทุเรียนหมอนทอง เป็นต้น